มากินปลากันดีกว่า


มากินปลากันดีกว่า

        ปลาขึ้นชื่อได้ว่าเป็นราชาของโปรตีน เพราะเนื้อปลานั้นมีโปรตีนที่ย่อยง่ายกว่าเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว และมีโปรตีนถึงร้อยละ 17-23 จะช่วยซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ เสริมสร้างกล้ามเนื้อที่จำเป็นสำหรับนักกอล์ฟ อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนอย่างเช่น กรดไลซีน กรดทรีโอนิน มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง และยังมีส่วนประกอบของสารสร้างภูมิคุ้มกันโรค ช่วยทำให้นอนหลับได้สนิทขึ้น สมองสามารถทำงานได้อย่างดี ชะลอความแก่ อีกทั้งยังทานได้มากโดยไม่ต้องกังวลว่าจะอ้วนเลย เพราะเนื้อปลามีไขมันที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ประเภทอื่น อีกทั้งยังมีโอเมก้า 3 ที่ป้องกันการสะสมตัวของคอเรสเตอรอล ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ และเส้นเลือดในสมองได้


มากินปลากันดีกว่า

        ประโยชน์ของโอเมก้า 3 ในเนื้อปลาที่นักกอล์ฟควรรู้ไว้มีดังนี้

          - การทานเนื้อปลาทูน่า ปลาแซลมอน ในกลุ่มคนที่กำลังลดน้ำหนัก จะช่วยให้การลดน้ำหนักได้ผลที่ดียิ่งขึ้น

          - โอเมก้า 3 ยังมีกรดไขมัน DHA ช่วยเสริมสร้างและพัฒนาความจำและการเรียนรู้

          - น้ำมันปลาช่วยลดความเครียด ทำให้จิตใจเยือกเย็น และสงบลงได้มากขึ้น

          - โอเมก้า 3 ช่วยแก้ไขอาการซึมเศร้า สมาธิสั้น ทำให้อ่านหนังสือได้ดี

          - น้ำมันปลาช่วยบรรเทาอาการของนักกอล์ฟที่เป็นโรคไขข้ออักเสบ ถึงขั้นสามารถลดการใช้ยาบางส่วนได้

          - วิตามินดีจากโอเมก้า 3 ในปลาที่มีไขมันมาก ช่วยบรรเทาอาการของโรคผิวหนังได้

          - ทานปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง สามารถช่วยลดความดันโลหิต ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจได้

          - ในไขมันปลาที่มีกรดไขมัน EPA ช่วยลดคอเรสตอรอลในเลือดและระดับไตรกลีเซอไรด์ลงได้ ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ

          - แร่ธาตุไอโอดีนในปลาทะเล ป้องกันโรคคอหอยพอกและโรคเอ๋อ

          - ปลาตัวเล็ก เช่น ปลาข้าวสาร รวมทั้งปลากระป๋องอย่างปลาซาร์ดีน ปลาที่รับประทานได้ทั้งตัว จะมีแร่ธาตุแคลเซียมที่ได้จากกระดูกปลา ป้องกันโรคกระดูกพรุน เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง


 

        ปลาแต่ละประเภทจะมีปริมาณไขมันที่ไม่เท่ากัน ซึ่งแบ่งได้เป็น 4 ประเภทคือ

          1. ปลาที่มีไขมันต่ำมาก เช่น ปลาไหล ปลากราย ปลานิล ปลากะพงแดง ปลาเก๋า

          2. ปลาที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาทูนึ่ง ปลากะพงขาว ปลาจะละเม็ดดำ ปลาอินทรี

          3. ปลาที่มีไขมันปานกลาง เช่น ปลาสลิด ปลาตะเพียน ปลาจะระเม็ดขาว

          4. ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาช่อน ปลาสวาย ปลาดุก ปลาสำลี
 

 

        การปรุงอาหารยังส่งผลต่อปริมาณไขมันในตัวปลาด้วยเช่นกัน โดยการเลือกรับประทานเนื้อปลาที่ไม่ผ่านการปรุง หรือปรุงโดยวิธีต้มและนึ่งจะทำให้ปลามีไขมันและพลังงานที่ต่ำ แต่ถ้าหากนำไปย่างหรือทอดก็จะทำให้ไขมันสูงขึ้น หากนักกอล์ฟอยากทานเมนูปลาก็ควรจะเลือกชนิดของปลาและประเภทการปรุงด้วย

        การรับประทานปลายังได้รับวิตามินที่หลากหลาย เช่น วิตามินเอ วิตาบินบี 1-2 วิตามินดี ไนอาซีน หากนักกอล์ฟต้องการที่จะได้รับประโยชน์จากเนื้อปลาก็ควรทานเนื้อปลาสัปดาห์ละ 200 กรัม หรือ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว

โดย นิตยสารเกษตรศาสตร์
No comments yet
ความคิดเห็น

คุณอาจชอบ

^